วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554


เพิ่มความเร็วการเล่นอินเทอร์เน็ตอย่างง่าย 10 วิธี
 ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของคนทุกคนกันมากขึ้น เราจึงขอเสนอเทคนิค วิธีการท่องอินเทอร์เน็ตให้เร็วขึ้นได้ตนเอง ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถที่จะทำได้


1. ติดตั้ง Driver ของ Modem ของคุณให้ถูกต้อง  ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าการใช้ Driver ที่ถูกต้องจะทำให้เราสามารถใช้ความสามารถของโมเด็มได้มากที่สุด วิธีการตรวจสอบให้เข้า คลิกปุ่ม Start เลือก Control Panel จากนั้นคลิกไอคอน Modem แล้วคลิก General Tab ลองสังเกตดูว่าชื่อโมเด็มตรงกับที่ใช้อยู่หรือไม่ ถ้าไม่ใช้ให้ติดต่อบริษัทที่คุณซื้อมา หรือถ้าไม่สะดวกให้เข้าไปที่เวปไซท์ ของเจ้าของ Modem นั้น ๆ แล้วเลือก downlaod Driver ของ Modem ของคุณ เลือกเวอร์ชั่นล่าสุด

2. ซื้อโมเด็มที่มีความเร็วสูงสุด  และความเร็วของ PC ที่คุณใช้ก็ส่วนที่จะ ช่วยให้การใช้งานอินเตอร์เน็ตเร็วขึ้นด้วย
3. โมเด็มสองเดียวไม่พอ ข้อนี้ไม่ค่อยอยากแนะนำเพราะว่าคุณต้องเสียเงินเพิ่ม และเสียค่าโทรศัพท์ในการใช้งานเพิ่มด้วย แต่ก็เป็นวิธีที่ดีที่ต้องการการใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เร็วมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการใช้ Modem 2 ตัวได้นั้น จะต้องขึ้นกับทาง ISP ที่คุณใช้ บริการว่า support Modem 2 ตัวหรือไม่
4. เลือก ISP ที่เร็วและดีที่สุด  วิธีง่าย ๆ ในการเลือก ISP มาใช้คือ ใช้ชุดอินเตอร์เน็ตสำเร็วรูปสัก 10 ชั่วโมง แล้วลองใช้ดูก่อน
5. เลือกหมายเลขโทรศัพท์ในการเชื่อมให้ถูกต้อง ข้อนี้สำคัญมาก เนื่องจากหลาย ๆ ท่านยังไม่เข้าใจ ISP จะมีบริการอินเตอร์เน็ตหลาย ๆ ระดับ ขึ้นกับความเร็วของ Modem ของคุณ เช่น ถ้าใช้ Modem 33.6 kbps จะต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์เบอร์ใด และถ้าคุณใช้ Modem 56 kbps คุณจะต้อง ใช้โทรศัพท์เบอร์ใด แต่อย่างไรก็ตามถ้าคุณใช้เบอร์ผิด อาจติดต่อได้ แต่นั่นทำให้การใช้งานอินเตอร์เน็ตช้าลงได้

6. หลีกเลี่ยงความแออัดของการจราจรบนอินเตอร์เน็ต เวลาที่ถูกว่าจะมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตมากคือเวลา 5 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน ดังนั้น ถ้าคุณสามารถหลีกเลี่ยงเวลาดังกล่าวได้ ย่อมมีส่วนอยู่บ้างที่จะช่วยให้คุณใช้งานอินเตอร์เน็ตได้เร็วมากยิ่งขึ้น

7. ตั้งค่า Buffers ให้มากขึ้น ถ้าคุณใช้ Modem แบบ UART รุ่น 16550 หรือใกล้เคียง และใช้ Windows 95,98/NT ให้ลองปรับเปลี่ยนค่า Buffers โดยการคลิกปุ่ม Start เลือก Control Panel คลิกไอคอน Modems คลิกเลือก Properties คลิกอีกครั้งที่ Connection tab คุณจะพบแถบสไลด์ที่มีข้อความ Port Setting ให้ปรับค่า Receive Buffers และ Transmit Buffers ไปทางขวา เป็น การเพิ่ม Buffers ให้มากขึ้น จะทำให้คุณเล่นอินเตอร์เน็ตได้เร็วมากขึ้น

8. ตั้งค่า Ports ให้เหมาะสม ให้ทดลองเปลี่ยนค่าความเร็วของ Port ให้เป็น 57,600 หรือ 115,200 bps โดยเข้าไปที่ Modem เลือก Properties ดูที่ช่อง Maximum speed หลังจากติดตั้งค่า Modem แล้ว ให้ปรับค่าความเร็วของ Port ใน Device Manager ด้วย โดยคลิกที่ Control Panel เลือกไอคอน System คลิกเลือก Device Manager แล้วเลือก Ports และคลิกหมายเลข Com Port ที่คุณ ติดตั้งโมเด็มเอาไว้ เลือก Port Settings (ข้อความ Flow Control ถูกเลือกเป็น hardware) จากนั้นกำหนดค่า 57,600 หรือ 115,200 ให้ตรงกับ Modem Properties ที่เลือกไว้ตอนต้น
 9. ติดตั้งโปรแกรมช่วยปรับค่าและติด Turbo ให้กับเว็บบราวเซอร์ของคุณ หลังจากปรับค่าต่าง ๆ แล้วยังไม่เป็นที่พอใจ ให้ลองติดตั้งโปรแกรมที่ช่วยในการปรับค่า และช่วยในการเพิ่มความเร็วโดยการ ตรวจสอบ Configuration ที่เหมาะสมสำหรับ ISP ของคุณ (ซึ่งแต่ละ ISP จะไม่เหมือนกัน) โปรแกรมเหล่านี้ได้แก่ internet Turbo, Web Turbo

10. ลบข้อมูลใน Cache และปรับแต่ง Harddisk ให้ทดลองเปลี่ยนค่าความเร็วของ Port ให้เป็น 57,600 หรือ 115,200 bps โดยเข้าไปที่ Modem เลือก Properties ดูที่ช่อง Cache คือพื้นที่ที่กำหนดไว้สำหรับเล่นอินเตอร์เน็ต ถ้าคุณมีพื้นที่ใน Harddisk ไม่มากพอ คุณควรลบ Cache ออกบ้างโดยเข้าไปที่ เว็บบราวเซอร์ของคุณ IE 5 คลิก Tools เลือก Internet Options เลือก Temporary Internet files ให้เลือก Delete files (Files เหล่านี้คือ files ที่ถูก save ไว้ขณะที่คุณเล่นอินเตอร์เน็ต) จากนั้นให้คุณปรับแต่ง Harddisk ด้วยการเลือกคำสั่ง ฃ Scandisk และ Disk Defragmenter ซึ่งคำสั่งนี้อยู่ที่เมนู Accessories เมนูย่อย System Tools



รหัส Blue Screen


รหัส Blue Screen ( จอฟ้า ) สำหรับคนซ่อมคอมบ่อยๆ

รหัส Blue Screen ( จอฟ้า ) สำหรับคนซ่อมคอมบ่อยๆ
คำว่า Blue Screen คนเล่นคอม จะรู้จักดี และเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัว ไม่อยากให้เกิดกับคอมพิวเตอร์ของตัวเอง เพราะถ้าเกิดนั้นเป็นสัญญาณ บอกเหตุว่า คอมพิวเตอร์ของเราเริ่มจะมีปัญหาซะแล้ว
แต่่ที่น่าเจ็บใจคือมันบอกเป็นเลขรหัสที่เราไม่รู้ว่า มันคืออะไร และจะมีทางแก้ไขอย่างไร ที่จริงแล้วรหัสที่แจ้งของ Blue Screen มีเกินร้อยตัว แต่จะมาแนะนำเฉพาะที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ
มาเริ่มต้นกันเลย…
(stop code 0X000000BE)Attempted Write To Readonly Memory
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
อาการนี้เกิดจากการลง driver หรือ โปรแกรม หรือ service ที่ผิดพลาด เช่น ไฟล์บางไฟล์เสีย ไดร์เวอร์คนละรุ่นกัน
ทางแก้ไข ให้ uninstall โปรแกรมตัวที่ลงก่อนที่จะเกิดปัญหานี้ ถ้าเป็นไดร์เวอร์ก็ให้ทำการ roll back ไดร์เวอร์ตัวเก่ามาใช้ หรือ หาไดร์เวอร์ที่ล่าสุดมาลง (กรณีที่มีใหม่กว่า) ถ้าเป็นพวก service ต่างๆที่เราเปิดก่อนเกิดปัญหาก็ให้ทำการปิด หรือ disable ซะ
(stop code 0X000000C2) Bad Pool Caller
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
ตัวนี้จะคล้ายกับตัวข้างบน แต่เน้นที่พวก hardware คือเกิดจากอัฟเกรดเครื่องพวก Hardware ต่าง เช่น ram ,harddisk การ์ดต่างๆ ไม่ compatible กับ XP ทางแก้ไข
ก็ให้เอาอุปกรณ์ที่อัฟเกรดออก ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ให้ลงไดร์เวอร์ หรือ อัฟเดท firmware ของอุปกรณ์นั้นใหม่ และคำเตือนสำหรับการจะอัฟเดท ให้ปิด anti-virus ด้วยนะคะเดียวมันจะยุ่งเพราะพวกโปรแกรม anti-virus มันจะมองว่าเป็นไวรัส
(stop code 0X0000002E) Data Bus Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
อาการนี้เกิดจากการส่งข้อมูลที่เรียกว่า BUS ของฮาร์ดแวร์เสียหาย ซึ่งได้แก่ ระบบแรม ,Cache L2 ของซีพียู , เมมโมรี่ของการ์ดจอ, ฮาร์ดดิสก์ทำงานหนักถึงขั้น error (ร้อนเกินไป) และเมนบอร์ดเสีย
(stop code 0X000000D1)Driver IRQL Not Less Or Equal
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
อาการไดร์เวอร์กับ IRQ(Interrupt Request ) ไม่ตรงกัน การแก้ไขก็เหมือนกับ error ข้อที่ 1
(stop code 0X0000009F)Driver Power State Failure
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
อาการนี้เกิดจาก ระบบการจัดการด้านพลังงานกับไดรเวอร์ หรือ service ขัดแย้งกัน เมื่อคุณให้คอมทำงานแบบ”Hibernate” แนวทางแก้ไข ถ้าวินโดว์แจ้ง error ไดร์เวอร์หรือ service ตัวไหนก็ให้ uninstall ตัวนั้น หรือจะใช้วิธี Rollback driver หรือ ปิดระบบจัดการพลังงานของวินโดว์ซะ
(stop code 0X000000CE) Driver Unloaded Without Cancelling Pending Operations
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
อาการไดร์เวอร์ปิดตัวเองทั้งๆ ทีวินโดว์ยังไม่ได้สั่ง การแก้ไขให้ทำเหมือนข้อ 1
(stop code 0X000000F2)Hardware Interrupt Storm
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
อาการที่เกิดจากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น USB หรือ SCSI controller จัดตำแหน่งกับ IRQ ผิดพลาด สาเหตุจากไดร์เวอร์หรือ Firmware การแก้ไขเหมือนกับข้อ 1
(stop code 0X0000007B)Inaccessible Boot Device
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
อาการนี้จะมักเจอตอนบูตวินโดว์จะมีข้อความบอกว่าไม่สามารถอ่านข้อมูลของไฟล์ระบบหรื อ Boot partitions ได้ ให้ตรวจฮาร์ดดิสก์ว่าปกติหรือไม่ สายแพหรือสายไฟที่เข้าฮาร์ดดิสก์หลุดหรือไม่ ถ้าปกติดีก็ให้ตรวจไฟล์ Boot.ini อาจจะเสีย หรือไม่ก็มีการทำงานแบบ Multi OS ให้ตรวจดูว่าที่ไฟล์นี้อาจเขียน Config ของ OS ขัดแย้งกัน
อีกกรณีหนึ่ง ที่เกิด error นี้ คือเกิดขณะ upgrade วินโดว์ สาเหตุจากมีอุปกรณ์บางตัวไม่ Compatible ให้ลองเอาอุปกรณ์ ที่ไม่จำเป็นหรือคิดว่ามีปัญหาออก เมื่อทำการ upgrade วินโดว์เรียบร้อย ค่อยเอาอุปกรณ์ที่มีปัญหาใส่กลับแล้วติดตั้งด้วยไดร์ เวอร์รุ่นล่าสุด
(stop code 0X0000007A) Kernel Data Inpage Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
อาการนี้เกิดมีปัญหากับระบบ virtual memory คือวินโดว์ไม่สามารถอ่านหรือเขียนข้อมูลที่ swapfile ได้ สาเหตุอาจเกิดจาก ฮาร์ดดิสก์เกิด bad sector, เครื่องติดไวรัส, ระบบ SCSI ผิดพลาด, RAM เสีย หรือ เมนบอร์ดเสีย
(stop code 0X00000077)Kernel Stack Inpage Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
อาการ และสาเหตุเดียวกับข้อ 9
(stop code 0X0000001E)Kmode Exception Not Handled
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
อาการนี้เกิดการทำงานที่ผิดพลาดของไดร์เวอร์ หรือ service กับ หน่วยความจำ และ IRQ ถ้ามีรายชื่อของไฟล์หรือ service แสดงออกมากับ error นี้ให้ทำการ uninstall โปรแกรมหรือทำการ Roll back ไดร์เวอร์ตัวนั้น
ถ้ามีการแจ้งว่า error ที่ไฟล์ win32k สาเหตุเกิดจาก การ control software ของบริษัทอื่นๆ (Third-party) ที่ไม่ใช้ของวินโดว์ ซึ่งมักจะเกิดกับพวก Networking และ Wireless เป็นส่วนใหญ่
Error นี้อาจจะเกิดสาเหตุอีกอย่าง นั้นคือการ run โปรแกรมต่างๆ แต่หน่วยความจำไม่เพียงพอ
(stop code 0X00000079)Mismatched Hal
สาเหตุและแนวทางแก้ไข
อาการนี้เกิดการทำงานผิดพลาดของ Hardware Abstraction Layer (HAL) มาทำความเข้าใจกับเจ้า HAL ก่อน HAL มีหน้าที่เป็นตัวจัดระบบติดต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟท์แวร์ว่าแอพพลิเคชั่นตัวไหนวิ่งกับอุปกรณ์ตัวไหนให ้ถูกต้อง ยกตัวอย่าง คุณมีซอฟท์แวร์ที่ออกแบบไว้ใช้กับ Dual CPU มาใช้กับเมนบอร์ดที่เป็น Single CPU วินโดว์ก็จะไม่ทำงาน วิธีแก้คือ reinstall วินโดว์ใหม่
สาเหตุอีกประการการคือไฟล์ที่ชื่อ NToskrnl.exe หรือ Hal.dll หมดอายุหรือถูกแก้ไข ให้เอา Backup ไฟล์ หรือเอา original ไฟล์ที่คิดว่าไม่เสียหรือเวอร์ชั่นล่าสุดก๊อปปี้ทับไฟล์ที่เสีย
(stop code 0X0000003F)No More System PTEs
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจากระบบ Page Table Entries (PTEs) ทำงานโดย Virtual Memory Manager (VMM) ผิดพลาด ทำให้วินโดว์ทำงานโดยไม่มี PTEs ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวินโดว์ อาการนี้มักจะเกิดกับการที่คุณทำงานแบบ multi monitors
ถ้าคุณเกิดปัญหานี้บ่อยครั้ง คุณสามารถปรับแต่ง PTEs ได้ใหม่ ดังนี้
1. ให้เปิด Registry ขึ้นมาแก้ไข โดยไปที่ Start > Run แล้วพิมพ์คำสั่ง Regedit
2. ไปตามคีย์นี้ HKEY_LOCAL_MACHINESYSTEMCurrentControlSetControlSe ssion ManagerMemory Management
3. ให้ดูที่หน้าต่างขวามือ ดับคลิกที่ PagedPoolSize ให้ใส่ค่าเป็น 0 ที่ Value data และคลิก OK
4. ดับเบิลคลิกที่ SystemPages ถ้าคุณใช้ระบบจอแบบ Multi Monitor ให้ใส่ค่า 36000 ที่ Value data หรือใส่ค่า 40000 ถ้าเครื่องคุณมี RAM 128 MB และค่า 110000 ในกรณีที่เครื่องมี RAM เกินกว่า 128 MB แล้วคลิก OK รีสตาร์ทเครื่อง
(stop code 0X00000024) NTFS File System
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้สาเหตุเกิดจากการรายงานผิดพลาดของ Ntfs.sys คือไดร์เวอร์ของ NTFS อ่านและเขียนข้อมูลผิดพลาด สาเหตุนี้รวมถึง การทำงานผิดพลาดของ controller ของ IDE หรือ SCSI เนื่องจากการทำงานของโปรแกรมสแกนไวรัส หรือ พื้นที่ของฮาร์ดดิสก์เสีย คุณๆ สามารถทราบรายละเอียดของerror นี้ได้โดยให้เปิดดูที่ Event Viewer วิธีเปิดก็ให้ไปที่ start > run แล้วพิมพ์คำสั่ง eventvwr.msc เพื่อเปิดดู Log file ของการ error โดยให้ดูการ error ของ SCSI หรือ FASTFAT ในหมวด System หรือ Autochk ในหมวด Application
(stop code 0X00000050)Page Fault In Nonpaged Area
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้สาเหตุการจากการผิดพลาด ของการเขียนข้อมูลในแรม การแก้ไขก็ให้ทำความสะอาดขาแรม หรือลองสลับแรมดูหรือไ ม่ก็หาโปรแกรมที่ test แรมมาตรวจว่าแรมเสีย หรือไม่
(stop code 0Xc0000221)Status Image Checksum Mismatch
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้สาเหตุมาจาก swapfile เสียหายรวมถึงไดร์เวอร์ด้วย การแก้ไขก็เหมือนข้อ 15
(stop code 0X000000EA)Thread Stuck In Device Driver
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการของ error นี้คือการทำงานของเครื่องจะทำงานในแบบวนซ้ำๆ กันไม่สิ้นสุด เช่นจะรีสตาร์ทตลอด หรือแจ้งerror อะไรก็ได้ขึ้นมาไม่หยุด ปัญหานี้ สาเหตุอาจจะเกิดจาก Bug ของโปรแกรมหรือสาเหตุอื่นๆ เป็นร้อย การแก้ไขให้พยายามทำตามนี้
1.ให้ดูที่ Power supply ของคุณว่าจ่ายกำลังไฟเพียงพอกับความต้องการของคอมคุณ หรือไม่ ให้ดูว่าในเครื่องคุณมีอุปกรณ์มากไป ไม่เหมาะกับ Power supply ของคุณ ก็ให้เปลี่ยนตัวใหม่ให้กำลังมากขึ้น
2. ให้คุณดูที่การ์ดจอว่าได้ใช้ไดร์เวอร์ตัวล่าสุด ถ้าแน่ใจว่าใช้ตัวล่าสุดแล้วยังมีอาการ ก็ให้ทำการ Rollback ไดร์เวอร์ตัวก่อน ที่จะเกิดปัญหา
3. ตรวจดูการ์ดจอ และเมนบอร์ดว่าเสียหรือไม่เช่น มีรอยไหม้, ลายวงจรขาด มีชิ้นส่วนบางชิ้นหลุดจากตำแหน่งเดิม เป็นต้น
4. ดูที่ Bios ว่าส่วนของ VGA slot เลือกโหมด 4x,8x ถูกตามสเปคของการ์ดหรือไม่
5. เช็คดูที่ผู้ผลิดเมนบอร์ดว่ามีไดร์เวอร์ตัวใหม่ หรือไม่ ถ้ามีให้โหลดลงใหม่ซะ
6. ถ้าคุณมีการ์ดแลนหรือเมนบอร์ดของคุณมี on board อยู่ให้ disable ฟังก์ชั่น “PXE Resume/Remote Wake Up” โดยไปปิดที่ BIOS
(stop code 0X0000007F) unexpected Kernel Mode Trap
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกับนัก Overclock เป็นอาการ RAM ส่งข้อมูลให้ CPU ไม่สัมพันธ์กันคือ CPU วิ่งเร็วเกินไป หรือร้อนเกินไปสาเหตุเกิดจากการ Overclock วิธีแก้ก็คือลด clock ลงมาให้เป็นปกติ หรือ หาทางระบายความร้อนจาก CPU ให้มากที่สุด
(stop code 0X000000ED)Unmountable Boot Volume
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการที่วินโดว์หาฮาร์ดดิสก์ไม่เจอ (ไม่ใช่ตัวบูตระบบ) ในกรณีที่คุณมีฮาร์ดดิสก์หลายตัว หนึงในนั้น คุณอาจใช้สายแพ ของฮาร์ดดิสก์ผิด เช่น ฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ 33MB/secound ซึ่งต้องใช้สายแพ 40 pin แต่คุณเอาแบบ 80 pin ไปต่อแทน